27-พฤศจิกายน  |   2189

911 ทาร์ก้า (911 Targa), เคย์แมน จีทีเอส (Cayman GTS) และมาคันน์ เอส ดีเซล (Macan S Diesel) คือรถใหม่ที่ดีที่สุดของปี ปอร์เช่คว้า 3 รางวัลซ้อนในงานพวงมาลัยทองคำ Golden Steering Wheel Awards 2014          สตุ้ดการ์ด. ปอร์เช่คว้า 3 รางวัลจากการประกาศผลของงานพวงมาลัยทองคำ Golden Steering Wheel 2014 ซึ่งจัดขึ้นเป็นครั้งที่ 39 โดยได้รับคะแนนโหวตผ่านนิตยสารจากประเทศเยอรมนี "Bild am Sonntag" และ "Auto Bild" ให้เป็นรถที่ดีที่สุดของปี ซึ่งผู้อ่านกว่า 200,000 คนได้ทำการโหวตให้กับ 911 ทาร์ก้า (911 Targa) โดยการโหวตให้คะแนนนี้จัดทำขึ้นในประเทศเยอรมนี และอีก 6 ประเทศในยุโรป นั่นคือ ประเทศฝรั่งเศส ประเทศสเปน ประเทศฮังการี ประเทศออสเตรีย ประเทศเบรารุส และประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ผู้ทำการโหวตจากกลุ่มสื่อมวลชน นักแข่งรถ ผู้มีชื่อเสียงในสังคม และกลุ่มผู้เชี่ยวชาญด้านต่างๆ ล้วนพากันโหวตให้เคย์แมน จีทีเอส (Cayman GTS) คือรถสปอร์ตที่ดีที่สุด และมาคันน์ เอส ดีเซล (Macan S Diesel) คือรถสปอร์ตอเนกประสงค์ SUV ที่ดีที่สุด  โดยการให้คะแนนเหล่านี้ขึ้นอยู่กับกฎเกณฑ์และหลักการถึง 35 ข้อที่แตกต่างกัน รางวัลทั้ง 3 รางวัลขึ้นรับโดย Matthias Müller ประธานบอร์ดบริหาร, Wolfgang Hatz สมาชิกบอร์ดบริหารฝ่ายวิจัยและพัฒนา และ Michael Mauer ผู้ดูแลการออกแบบปอร์เช่        "การนำรางวัลพวงมาลัยทองคำ Golden Steering Wheels ถึง 3 รางวัลกลับ Zuffenhausen ถือเป็นประวัติศาสตร์ครั้งสำคัญสำหรับปอร์เช่เลยทีเดียว พวกเราภาคภูมิใจเป็นอย่างยิ่งกับรางวัลทั้ง 3 รายการนี้” Müller กล่าวไว้ในงานรับรางวัล และ Hatz ได้กล่าวไว้ว่า “สำหรับปอร์เช่ ไม่ใช่แค่เพียงเรื่องของพละกำลังที่ใส่ลงไปในเครื่องยนต์เท่านั้น แต่ต้องรวมไว้ซึ่งประสิทธิภาพที่เหนือชั้น การประหยัดน้ำมันเชื้อเพลิง และการรักษาเสถียรภาพของรถได้อย่างดีเยี่ยม เข้าไว้ด้วยกันอย่างลงตัว และสิ่งเหล่านี้ได้รับการพิสูจน์แล้วโดยเคย์แมน จีทีเอส (Cayman GTS) และมาคันน์ (Macan) รถสปอร์ตอเนกประสงค์แบบ Compact ของเรา สำหรับ Mauer กล่าวเสริมเกี่ยวกับรางวัลที่ 911 ทาร์ก้า (911 Targa) ได้รับจากการโหวตในครั้งนี้ว่า “รางวัลนี้ถือว่าเป็นรางวัลพิเศษสำหรับเรา เพราะนี่คือการเชื่อมโยงระหว่างการออกแบบที่ไร้กาลเวลาเข้ากับความเป็นทาร์ก้า (Targa) แบบดั้งเดิมได้อย่างลงตัว และสรรสร้างให้กลายมาเป็น 911 รถสปอร์ตที่ทันสมัยและได้รับการยอมรับทั่วทั้งยุโรปในครั้งนี้”