ยินดีต้อนรับคุณ,
บุคคลทั่วไป
กรุณา
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
Home
Car Show
Super Car & Import Car
Off Road
Car Stereo
Eenergy Business
Wheel & Tires
Classifieds
Webboard
Sport World
Home & Condo
Motor Cycle
Cycle Bike
Review & TestDrive
Classic Car
Motor Sport
Pretty Show
Sexy Lady
Society News
หน้าแรก
ช่วยเหลือ
ค้นหา
เข้าสู่ระบบ
สมัครสมาชิก
หน้าแรก
»
หน้าแรกสมาชิก
»
คลับ CarShow (ค่ายยุโรป)
»
อื่น ๆ ที่นอกเหนือ
»
ไวรัส RSV ในเด็ก ภัยเงียบที่พ่อแม่ต้องเฝ้าระวัง
« หน้าที่แล้ว
ต่อไป »
พิมพ์
หน้า: [
1
]
ผู้เขียน
หัวข้อ: ไวรัส RSV ในเด็ก ภัยเงียบที่พ่อแม่ต้องเฝ้าระวัง (อ่าน 59 ครั้ง)
airrii
Full Member
กระทู้: 153
ไวรัส RSV ในเด็ก ภัยเงียบที่พ่อแม่ต้องเฝ้าระวัง
«
เมื่อ:
ตุลาคม 16, 2025, 10:48:01 AM »
ในช่วงฤดูฝนจนถึงฤดูหนาว พ่อแม่หลายคนเริ่มมีความกังวลเกี่ยวกับสุขภาพของลูกน้อย โดยเฉพาะโรคติดเชื้อทางเดินหายใจ ซึ่งหนึ่งในไวรัสตัวร้ายที่สร้างความกังวลให้ผู้ปกครองมากที่สุดก็คือ
อาการ rsv ในเด็ก
(Respiratory Syncytial Virus)
ที่มักแพร่ระบาดอย่างรวดเร็วและเป็นสาเหตุสำคัญของอาการป่วยรุนแรงในเด็กเล็ก โดยเฉพาะ อาการ RSV ในเด็ก ที่หลายครั้งเริ่มต้นคล้ายไข้หวัดธรรมดา แต่สามารถลุกลามจนเป็นอันตรายถึงชีวิต อาการเริ่มต้น อาการรุนแรง และวิธีรับมือกับไวรัส RSV
เพื่อให้สามารถดูแลลูกน้อยได้อย่างทันท่วงที
RSV คืออะไร ทำไมถึงอันตรายต่อเด็กเล็ก
ไวรัส RSV เป็นเชื้อไวรัสที่ก่อให้เกิดการติดเชื้อในระบบทางเดินหายใจได้ทั้งส่วนบนและส่วนล่าง ความอันตรายของ RSV อยู่ที่การทำให้เกิด "หลอดลมฝอยอักเสบ" (Bronchiolitis) และ ปอดบวม (Pneumonia) โดยเฉพาะในกลุ่มเด็กเล็กที่มีอายุน้อยกว่า 2 ปี หรือเด็กที่มีภาวะเสี่ยง เช่น คลอดก่อนกำหนด หรือมีโรคประจำตัวเกี่ยวกับปอดและหัวใจ เนื่องจากทางเดินหายใจของเด็กเล็กมีขนาดเล็ก เมื่อเกิดการอักเสบและมีเสมหะจำนวนมาก จึงเกิดการอุดกั้น ทำให้หายใจลำบากและขาดออกซิเจนได้ง่าย
อาการ RSV ในเด็กจากหวัดธรรมดา สู่ภาวะอันตราย
อาการป่วยจากไวรัส RSV มักจะเริ่มแสดงออกภายใน 4-6 วันหลังได้รับเชื้อ โดยอาการในช่วงแรกมักจะคล้ายกับไข้หวัดทั่วไป แต่จะมีลักษณะที่แตกต่างและรุนแรงขึ้นอย่างรวดเร็ว
1. อาการเริ่มต้น (คล้ายไข้หวัดทั่วไป)
ในช่วง 2-4 วันแรก อาการมักไม่จำเพาะเจาะจง อาจทำให้พ่อแม่เข้าใจผิดว่าเป็นเพียงไข้หวัด:
มีไข้: อาจมีไข้ต่ำ ๆ หรือไข้สูง (บางรายอาจสูงถึง 39−40 ติดต่อกันหลายวัน)
น้ำมูกไหล: มักมีน้ำมูกใสในช่วงแรก ก่อนจะข้นและเหนียวขึ้น
ไอ จาม: ไอแห้ง ๆ ในช่วงแรก ก่อนจะพัฒนาเป็นไอมีเสมหะมากและเหนียวข้น
2. อาการที่บ่งบอกถึงความรุนแรง (ควรเฝ้าระวังเป็นพิเศษ)
หลังจากผ่านไป 2-3 วัน หากอาการไม่ดีขึ้นหรือแย่ลงอย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะในเด็กเล็กและทารก ให้สังเกตอาการที่บ่งชี้ถึงการลุกลามไปยังทางเดินหายใจส่วนล่าง:
ไอหนักและนาน: ไอมากจนอาเจียน หรือไอจนเหนื่อยหอบ
หายใจลำบาก/หายใจหอบเหนื่อย:
เด็กหายใจครืดคราด
เป็นอาการจำเพาะที่สำคัญที่สุด
หายใจเร็ว: หายใจเร็วกว่าปกติ (ควรนับอัตราการหายใจ)
อกบุ๋ม/ปีกจมูกบาน: กล้ามเนื้อหน้าอกหรือซี่โครงยุบลงไปด้านในเวลาหายใจ หรือปีกจมูกขยายใหญ่ขึ้น
มีเสียงหายใจผิดปกติ: ได้ยินเสียงหายใจดัง "วี้ด ๆ" (Wheezing) หรือเสียงครืดคราดในลำคอ (เสมหะเยอะ)
เบื่ออาหาร/กินนมน้อยลง: เด็กไม่ยอมรับประทานอาหารหรือดูดนมน้อยลงมาก อาจนำไปสู่ภาวะขาดน้ำ
ซึมลง/หงุดหงิดง่ายผิดปกติ: เด็กเล็กมีอาการเซื่องซึม งอแง ร้องกวนมากกว่าปกติ หรือปลุกตื่นยาก
ริมฝีปากและปลายเล็บเปลี่ยนสี: ปากหรือปลายนิ้วเปลี่ยนเป็นสีเขียวคล้ำ (Cyanosis) ซึ่งเป็นสัญญาณของภาวะขาดออกซิเจน ควรรีบนำส่งโรงพยาบาลทันที
หมอเด็ก
บันทึกการเข้า
พิมพ์
หน้า: [
1
]
« หน้าที่แล้ว
ต่อไป »
หน้าแรก
»
หน้าแรกสมาชิก
»
คลับ CarShow (ค่ายยุโรป)
»
อื่น ๆ ที่นอกเหนือ
»
ไวรัส RSV ในเด็ก ภัยเงียบที่พ่อแม่ต้องเฝ้าระวัง
แสดงผลได้กับ IE9+/Firefox/Chrome
1440*900 resolutions.
©2013 www.carshowsociety.com
Web Creative Design by Qisza.com
789/4 ซ.ลาดพร้าว 48 แยก 8 แขวงสามเสนนอก เขตห้วยขวาง กรุงเทพฯ 10320
มือถือ : 08-4659-4999
Scroll