|
|
การผลิตเครื่องยนต์ เบอลิเน็ตต้า บ็อกเซอร์ ถือว่าเป็นก้าวสำคัญของ เอ็นโซ่ เฟอร์รารี่ เลยทีเดียว โดยตอนแรกเขาคิดว่ารถที่ใช้เครื่องยนต์แบบขับเคลื่อนล้อหลังนั้นจะส่งผลให้การบังคับรถนั้นเป็นไปได้ยากสำหรับลูกค้าของเขา ซึ่งเหล่าวิศวะกรของเฟอร์รารี่ใช้เวลาที่จะเปลี่ยนความคิดของเอ็นโซ่อยู่นานหลายปี จนกระทั่งในที่สุดเขาก็ยอมเปลี่ยนความคิด ภายหลังจากที่เฟอร์รารี่สูญเสียตำแหน่งผู้นำให้แก่รถเครื่องยนต์ขับเคลื่อนล้อหลังยี่ห้ออื่นๆในการประลองความเร็วที่สนามแข่ง ซึ่งหลังจากความพ่ายแพ้ในครั้งนั้น ทำให้เฟอร์รารี่ผลิตเจ้า Ferrari Dino รถแข่งเครื่องยนต์วางกลางขับเคลื่อนล้อหลัง ทั้ง 4 สูบ 6 สูบ และ 8 สูบ เพื่อต่อสู้กับรถแข่งค่ายอื่นๆ โดยวิวัฒนาการนั้นได้ส่งผลถึงรถรุ่นต่อๆมาของเฟอร์รารี่ที่ใช้รหัส P และ LM แต่สำหรับรุ่น Daytona นั้นยังคงใช้เครื่องยนต์แบบขับเคลื่อนล้อหน้าจนมาในปี 1971 ที่เฟอร์รารี่ได้เปลี่ยนมาใช้เครื่องยนต์ขับเคลื่อนล้อหลัง ขนาด 12 สูบทั้งหมด |
| เรื่องอื่นๆ ในหมวด |
![]() |
งาน Retro Meeting 2014 มีขึ้นเมื่อวันที่ 5 เมษายนที่ผ่านมาเป็นการร่วมมือกันระหว่างบริษัท 3 มงกุฎเรซซิ่งโปรเจ็คจำกัดและทีมงานผู้จัดงาน Retro Meeting.. |
![]() |
"เคน-ธีรเดช วงศ์พัวพันธ์" นอกจากยังเป็นพระเอกสุดหล่อที่หลายคนต่างยังติดตามผลงาน เขาก็ยังเป็นนักสะสมรถยนต์คลาสสิกตัวยงอีกด้วย.. |
![]() |
การตรวจสอบหาแหล่งที่มาของรถคลาสสิกในรุ่นเก่าๆตอนที่มันออกจากโรงงานนั้นทำให้คุณอาจจะต้องเสียเงินในกระเป๋าเป็นจำนวนมากไปก็ได้.. |
![]() |
แม้มาจนถึงวันนี้ค่ายรถยนต์ pontiac จะปิดตัวไปอย่างเป้นทางการแล้วหลังค่าย GM ตัดสินใจยุบแบรนดืที่อยู่คู่กลุ่มรถสปอร์ตมานาน.. |
| ทั้งหมด -»» |
|
|
แสดงผลได้กับ IE9+/Firefox/Chrome 1440*900 resolutions. ©2013 www.carshowsociety.com Web Creative Design by Qisza.com |
789/4 ซ.ลาดพร้าว 48 แยก 8 แขวงสามเสนนอก เขตห้วยขวาง กรุงเทพฯ 10320 มือถือ : 08-4659-4999 |