25-มีนาคม  |   938

ทำไมผู้ใช้รถยนต์ส่วนใหญ่จึงเลือกที่จะติดตั้งLPGทั้งที่ภาครัฐไม่ได้ส่งเสริม ก๊าซ lpg คืออะไร ก๊าซปิโตรเลียมเหลว (liquefied petroleum gas =lpg) เรารู้จักในนามของก๊าซหุงต้ม เป็นก๊าซไม่มีสี ไม่มีกลิ่น เบากว่าน้ำแต่หนักกว่าอากาศ เพื่อความปลอดภัยจึงมีการเติมสารจำพวก mercaptan เพื่อให้เกิดกลิ่นแจ้งเตือนเวลาเกิดการรั่ว  ในบ้านเรามาจาก 2 แหล่งที่มา คือ การแยกน้ำมันดิบจากโรงกลั่นน้ำมัน และ บ่อก๊าซธรรมชาติ ประกอบด้วยส่วนผสมของไฮโดร คาร์บอน 2 ชนิด คือ โปรเปน (propane) บิวเทน(butane) ในอัตราส่วนเท่าไดก็ได้ ก๊าซแอลพีจีจะสามารถติดไฟได้ต้องมีอัตราส่วนระหว่าง 2-9 ส่วนต่ออากาศ 100 ส่วน น้อยกว่า 2% หรือ มากกว่า 9% ส่วนผสมดังกล่าวจะไม่ติดไฟ อุณหภูมิที่สามารถติดไฟเองได้อยู่ระหว่าง 410-580 องศาเซนเซียส มีค่าออกเทนอยู่ระหว่าง 95-105 และ แอลพีจีต้องการส่วนผสมของอากาศมากกว่าเบนซินเล็กน้อยในการเผาไหม้ระดับเดียวกัน มีสถานะเป็นของเหลวและก๊าซ และ นำมาใช้งานในรูปของไอสำหรับในรถยนต์ แอลพีจี 1 กิโลกรัมมีปริมาตร = 1.8 ลิตร ขณะที่เบนซิน 1 กิโลกรัมมีปริมาตร = 1.5 ลิตร คุณสมบัติในการเป็นเชื้อเพลิงของแอลพีจีทั้งค่าออกเทน ค่าพลังงานความร้อน และอัตราส่วนในการผสมของอากาศ แอลพีจีมีความใกล้เคียงเบนซินมากที่สุด มีสถานีบริการครอบคลุมทั่วไทย ถังแก๊สมีน้ำหนักเบา อุปกรณ์ส่วนควบคุมมีราคาถูก เลือกอุปกรณ์อย่างไรจึงจะไม่ได้ชื่อว่าเลือกผิด อุปกรณ์ส่วนที่ใช้ควบคุมระบบของแอลพีจีมีอยู่หลายส่วนด้วยกัน เริ่มจากถัง มีถังอยู่ 3 แบบด้วยกันที่นิยมใช้ในบ้านเรา 1. ถังแบบวาล์ว obd ลักษณะเป็นวาล์วมือหมุนสีทองหรือสีเขียว-แดง 2. ถังแบบวาล์ว ซุปเปอร์ ลักษณะเหมือนชนิดแรกแต่เพิ่มโซลีนอล์ยไฟฟ้าไว้ปิด เปิดแก๊ส 3. ถังแบบมัลติวาล์ว ถังรูปแบบนี้เป็นที่นิยมทั้งในบ้านเราและต่างประเทศ เราสามารถเลือกวาล์วที่จะใช้กับถังชนิดนี้คุณภาพดีแค่ไหนก็ได้ ยิ่งเลือกใช้วาล์วคุณภาพดีเท่าไรก็หมายถึงความปลอดภัยของผู้ใช้เช่นกัน มัลติวาล์วคุณภาพดีส่วนใหญ่มาจากอิตาลีเช่นยี่ห้อ brc-omb-omvl-tomasetto เป็นต้น ส่วนถังก๊าซแอลพีจี เป็นถังที่ผลิตภายในประเทศมี 5 ยี่ห้อคือ 1. เมททัลเมท 2. ชื่นศิริ 3. สยามอินเตอร์แม๊กเนท 4. สหมิตร 5. ยูเอ็มดี  ทุกรายได้ มอก. ส่วนถังทรงโดนัทอยู่ในชนิดถังมัลติวาล์ว ส่วนใหญ่นำเข้าจากต่างประเทศมีราคาแพง และ ไม่ผ่าน มอก.ของไทยท่อนำแก๊ส ปัจจุบันกรมการขนส่งทางบกออกกฎกระทรวงบังคับให้ผู้ติดตั้งแก๊สแอลพีจีต้องใช้อุปกรณ์ส่วนควบคุมทุกชิ้นต้องมีมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม(มอก.) หรือ มาตรฐานยูโร 2 ece.r67 ท่อนำแก๊สในปัจจุบันนิยมใช้ยี่ห้อ faro ซึ่งสามารถรับแรงดันได้ถึง 40 bar แต่แรงดันใน ระบบของแอลพีจีสูงสุดไม่เกิน 8 barก่อนเข้าสู่หม้อต้ม ท่อยางต่างๆในระบบแก๊ส  ต้องมีมาตรฐาน มอก. หรือ ece.r67 ด้วยเช่นกัน ที่นิยมใช้กันมากจะเป็นยี่ห้อ ปราคเกอร์ ระบบจ่ายแก๊สในรถยนต์ ถือว่าเป็นส่วนที่มีความสำคัญมาก ระบบที่ดีย่อมทำให้การขับเคลื่อนของรถยนต์มีประสิทธิภาพสูงสุด แรงม้า แรงบิด และความร้อนในห้องเผาไหม้ต้องไม่แตกต่างการใช้น้ำมันเบนซินมากนัก แต่ด้วยน้ำหนัก lpg ที่เบากว่าน้ำมันเบนซินและความต้องการส่วนผสมของอากาศที่มากกว่าน้ำมันเบนซิน จึงต้องใช้ก๊าซ lpg ในปริมาณที่มากกว่าน้ำมันราว 15-20% เพื่อให้ได้ค่าการเผาไหม้ที่สมบูรณ์และค่าของควันไอเสียหลังการเผาไหม้ให้อยู่ในระดับเดียวกันกับน้ำมันเบนซิ (lambda =1) ระบบควบคุมในการจ่ายแก๊ส มีความสำคัญสูงสุดในระบบแก๊ส ถ้าการเลือกระบบไม่เหมาะสม หรือ มีการติดตั้งที่ไม่ถูกต้อง หรือ ไม่มีระบบเซฟตี้ที่ดีเพียงพอ รวมถึงการเดินสายไฟระบบที่ไม่มีการเชื่อม หรือ บัดกรีย่อมก่อให้เกิดปัญหากับผู้ใช้ทั้งในระยะสั้นและระยะยาวที่สำคัญทำให้ความสุขในการใช้รถยนต์ซึ่งเป็นปัจจัยที่ 5 ลดน้อยลงไป  ระบบที่นิยมใช้ในเมืองไทย 1.ระบบดูด (mixer) นิยมใช้แพร่หลายมาหลายปีเพราะระบบมีราคาถูกติดตั้งง่าย แท็กซี่ส่วนใหญ่ใช้ระบบนี้ เพราะสามารถปรับจนเองได้ แยกย่อยได้ 4 รูปแบบคือ 1.1ดูดแบบคงที่ หรือ ดูดแบบคาร์บูเรเตอร์แก๊ส (fix mixer) 1.2 ดูดแบบแปรผันตามแรงลม (variable mixer) 1.3 ดูดแบบแปรผันตามค่าออกซิเจนเซนเซอร์ (lamda control) 1.4 ดูดแบบแปรผันตามค่าหลายเซนเซอร์ (fumigation) 1.1 และ 1.2 เป็นแบบวงจรเปิด (open loop) 1.3 และ1.4 เป็นแบบวงจรปิด (close loop) ระบบหัวฉีด(injection) เป็นระบบที่นิยมมากที่สุดสำหรับรถยนต์ในยุคมิลเลเนียม เป็นระบบที่มีการประมวลผลด้วย ecu ในบ้านเรานิยมใช้ระบบฉีดแก๊สแบบแปรผันตามค่าการฉีดของหัวฉีดน้ำมัน (sequential injection system) มีอยู่หลากหลายยี่ห้อ ฟังส์ชั่นการทำงานของระบบก็แตกต่างกันไป โดยทั่วไปวัดคุณภาพความเร็วในการประมวลผล และรายละเอียดในการปรัปจูน ระบบหัวฉีดที่ดีต้องมีการคำนวณปริมาณอากาศในท่อร่วมไอดีได้ และตัวหม้อต้มของระบบต้องสามารถแปรผันค่าแรงดันได้ สำหรับตัวของหัวฉีดแก๊สมีอยู่เพียง 2 แบบคือ แบบลิ้น และแบบลูกเลื่อน 1. แบบลิ้น กลไกลภายในมีน้ำหนักเบาความแม่นยำสู้ลูกเลื่อนไม่ได้แต่มีการตอบสนองเร็วกว่าลูกเลื่อนมากเหมาะกับเครื่องยนต์ที่มีค่าการฉีดต่ำกว่า 2 ms 2. แบบลูกเลื่อน จะมีน้ำหนักของกลไกลภายในมากกว่าแต่สามารถควบคุมการทำงานได้แม่นยำกว่า คงทนกว่า และมีราคาในการซ่อมบำรุงที่ถูกกว่า เหมาะสำหรับเครื่องยนต์ที่มีช่วงเวลาการฉีดของน้ำมันระหว่าง 2-3 ms สรุป การใช้งาน lpg เพื่อเป็นเชื้อเพลิงทดแทนน้ำมันเบนซิน สามารถใช้งานได้ใกล้เคียงน้ำมันมากที่สุด สถานีบริการครอบคลุม ราคาการติดตั้งไม่สูงเพียงแค่เรารู้จักเลือกใช้อุปกรณ์ให้ดีที่สุด และเลือกติดตั้งกับช่างที่เข้าใจระบบของรถ และต้องรอบรู้เรื่องคุณสมบัติของชนิดเชื้อเพลิง และที่สำคัญ เลือกระบบที่เหมาะสมที่สุดสำหรับรถรุ่นนั้นๆ เพื่อการใช้งานที่มีประสิทธิภาพสูงสุด และลดค่าใช้จ่ายในการซ่อมบำรุงก่อนเวลาอันควรครับผม g.o gas หวังอยากให้ทุกท่านใช้พลังงานทางเลือกอย่างมีความสุข มีคุณภาพชีวิตที่ดียิ่งขึ้น เราขอเป็นทางเลือกอีกทางในการให้บริการติดตั้งและซ่อมบำรุงระบบแก๊สในรถยนต์ เราจะทำงานอย่างสร้างสรรค์และรับผิดชอบต่อทุกๆสิ่งที่เราได้ทำลงไป